วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

I can change...By myself
หลังจากที่ห่างหายจากการอัปมาเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงสอบคือไม่รู้ว่างานเยอะหรือเหนื่อยอะไร แต่หมดแรง ช่วงนี้งานก็ถาโถมเข้ามาอีกไม่รู้จะทำอันไหนก่อนเลยทีเดียว ยังไงก็แล้วแต่เนื่องจากอาจารย์มอบหมายงานให้อัปลงบล็อกที่มีชื่อน่ารักๆว่าI can change.(ไมรู้ว่าเปลี่ยนได้จริงรึเปล่า55)ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยกระตุ้นให้กลับเข้ามาที่แห่งนี้อีกครั้ง55 งานนี้ก็คือว่าให้ภาพมาแล้วให้เล่าเรื่องจากภาพให้เพื่อนฟังเป็นภาษาญี่ปุ่น และภาพนั้นก็คือ...ใส่ภาพไม่ได้อ่ะ55ก็คือเป็นภาพเด็กนั่งโซฟาในโรงแรม อยู่ๆสบตากับชาวต่างชาติ แต่ตัวเองพูดภาษาต่างชาติไม่เป็นกลัวเค้าเข้ามาถามทาง
เลยไปหลบอยู่หลังหนังสือพิมพ์ที่คุณลุงข้างๆกางอ่านอยู่ประมาณนี้ คือที่จริงอายมากนะแต่ก็จะลง โอเคมาดูกันเลยดีกว่า ป.ล.สีแดงๆในวงเล็บคือあいづちของเพื่อน
พัฒนาการของฉันในการเล่าเรื่องเป็นภาษาญี่ปุ่น(I can change!)ตอนBy myself

 え、あのう、ある部屋にあるソファーに あのう、二人の人が座っています。ある人は右に座っています。向こう あのう、左にも一人の人が座っています。でも、あのう、右に座ってめがねをかけている人はあのう、新聞を読んでいます。(はい)他の人は何もしないでこのまま座っています。(はい)何をしないでいる人はあのう、前に見てある外国人の目に合わせてお互いに見ました。(はい)はい でも、あのう、その外国人は、あのう、手の中に、あのう、地図を持っています。道に迷っているかもしれません。ソファーに座っている人は、その外国人は自分の方に歩いて来る気がしました。(え、そのソファー座っている人はどの人ですか)あのう、何をしないでいる人ですね。(おお)はい、そして、本当に、あのう、その外国人は何をしないで男の人に歩いてきました。(はい)でも、あのう、ソファーに座っている何をしないで男は怖いかもしれません。あのう、笑 英語が上手じゃないかもしれません。あのう、外国人と話すことが怖がりました。そこで、あのう、ソファーに座っている新聞を読んでいる男の新聞の中に(新聞の中ですか)新聞の中じゃない、後 後(後)え、分かったかな?あのう、新聞を読んでいる人はこうやって、男の子は新聞を読んでいる人のそばに座って一緒に新聞を読んでいるみたいにふりをしました。(おお,そっか、分かりました)外国人は近くに歩いて来て,あのう、(え!)なんで急に他の人と新聞を読んでいるか分かりません。じゃ、これで終わります。

จบแล้วก็อย่างที่เห็นนะเล่าไม่ได้เรื่องเลยถามว่าเจ็บใจตรงไหนหลายที่เลย555
อย่างแรกเลยคือจะเห็นว่าあのうเยอะมากมีประมาณ17ครั้งได่้ และสิ่งที่ทำไม่ค่อยได้คือการอธิบายช่วงแรกที่ว่านั่งอยู่สองคนนะอีกคนอยู่ฝั่งนี้รู้สึกยุ่งยากมาก แค่จะอธิบายว่าอีกคนนั่งเฉยๆยังพูดซะยาวเลย จะบอกว่าสบตาก็พูดไม่ถูก ยิ่งตอนหลบหลังหนังสือพิมพ์นี่แล้วใหญ่เลย อาจจะเป็นเพราะศัพท์และสำนวนในหัวน้อยด้วย55

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit7 勉強になったこと
 สวัสดีทุกคนกลับมาเจอกันอีกแล้ว ช่วงนี้ปั่นงะ55โอเคครั้งที่แล้วเฟิร์นได้ลองเอา目をつけていたไปใช้เนาะ ใช้ว่า目をつけていたレストランซึ่งก็แปลประมาณว่าเป็นร้านที่จับตามองไว้ว่าอยากจะไปกินไรงี้ มาขยายความกันหน่อย อาจเอาไปใช้กับอย่างอื่นก็ได้นะเช่น
                       目をつけていたバッグ、目をつけていた靴งี้
หรือถ้าจะใช้เป็นคำกริยาก็เช่น
                       彼は数か月前からテロリストとして目をつけられていた。
      เขาถูกจับตามองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายตั้งแต่สองสามเดือนก่อน
เอาล่ะมาต่อกันเรื่องเมะเมะหน่อย คือเมื่อสัปดาห์ก่อนๆอาจารย์ให้ทำtaskก็ของวิชานี้แหละนะให้ภาพมาเล่าให้อีกคนฟังเป็นภาษาญี่ปุ่น เฟินก็ได้เรื่อง外国人คือก็มีอยู่ช่วงจะเล่าว่าคนที่นั่งเฉยๆน่ะก็ดันไปสบสายตากับคนต่างชาติ ไอคำว่าสบสายตานี่สิก็ไม่มั่นใจว่าต้องพูดไง แต่ก็ซุยไปว่า目に合わせるซึ่งก็นะผิดอยู่ละล่ะเพื่อนฟังรู้เรื่องป่าวก็ไม่รู้ ทีนี้ก็เลยมาดูเฉลยในใบที่อาจารย์แจกให้ก็พบว่าส่วนใหญ่เค้าใช้คำว่า目が合うกัน

1.目が合う=สบตา
    เช่น ちょうどめがあった。=สบตาพอดี
   สบสายตากับใครก็...と目があった

นอกจากนี้ก็ยังมีใช้แบบ目線が合うด้วยแปลว่าสบสายตา ปกติไม่เคยใช้คำว่า目線เลย

                                                              目線(めせん)=สายตา

2.目線が会う=สบสายตา
   ความหมายก็เหมือนกับ目が合うน่ะแหละ สบในที่นี้จะแบบสบตาพอดีไม่ได้ตั้งใจจะสบตาถ้าแบบสบตาแบบบังคับลูกตาเองแบบ他動詞อ่ะ55เอิ่มการอธิบายสุดมากจะเป็น目線を合わせる
   ว่าแต่เราไม่ค่อยได้ใช้目線กันเลยเนาะงั้นมาสนใจเค้าหน่อยดีกว่า





3.目線で考える=คิดจากทัศนคติของ(สถานะบุคคล),คิดจากทัศนคติหรือมุมมองจากสายตาของ...
   เช่น 生徒の目線で物事を考えてみる。
  ลองคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆจากมุมมองของนักเรียนดู
ตอนนี้หลายคนคงสงสัยว่าอ่าวแล้ว目にあわせるใช้ยังไง คือเฟิร์นลองค้นมาปกติเค้าจะไม่ใช้แค่目にあわせるหรือ目にあうกัน งั้นจะขอยกตัวอย่างแบบที่เค้าใช้กันนะเช่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ลงโทษ

4。(相手に)痛い目にあわせる=สั่งสอนให้รู้สำนึกหรือให้เจ็บปวด(กับสิ่งที่ทำ) ประมาณว่าคนๆนั้นทำ    ผิดแล้วลงโทษ
             เช่น 私の話を聞け、さもないと、痛い目にあわせるぞ。
               =ฟังฉันนะไม่งั้นฉันจะลงโทษ
        痛い目にあう=ได้รับความเจ็บปวดความทุกข์ทรมาน
              เช่น(いつかきっと)痛い目にあうぞ。
     =สักวันผลกรรมต้องตามสนองแน่ (ประมาณว่าต้องได้รับความเจ็บปวดหรือ                                                                                 ปัญหาจากการกระทำของตนตามมา)
 มีความหมายเหมือนกับひどい目にあわせる/あう

และอยากจะเสนออีกคำแต่อันนี้เป็นเรื่องของเวลาคือตอนอธิบายภาพจะมีอยู่ช่วงอธิบายว่ามีเด็กคนนึงนั่งเฉยๆไม่ทำไรตอนนั้นเฟิร์นก็พูดไปว่า何をしないでいる男の子แปลแบบไทยๆเลยยาวด้วยแต่พอมาดูเฉลยมีคนใช้คำว่า時間をつぶしていた男性

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดื่มกาแฟ

5.時間をつぶす=ฆ่าเวลา
   เช่นコーヒーでも飲んで時間をつぶそう。
   =มาดื่มกาแฟฆ่าเวลากันเถอะ

วันนี้ก็ขอนำเสนอแค่นี้ก่อนละกันดูจะยาวไปละ55
เออนี่เฟินได้มีโอกาสลองใช้ศัพท์เกี่ยวกับโทรศัพท์พอดีเลยแหละ แบบจะให้อีกคนคุยต่อก็ลองใช้...ちゃんにつなぐไปเค้าก็เข้าใจนะแต่เค้าบอกว่าใช้เป็น...誰に取りつなぐจะดูเป็นธรรมชาติกว่า งั้นเราก็ลองใช้取りつなぐกันดูเนาะจะได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
      

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit6 電話
  สวัสดีทุกคนหลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานวันนี้กลับมาแล้ว คือเพิ่งจะผ่านช่วงสอบนรกมาบางคืนนี่ไม่ได้นอนกันเลยทีเดียวงานก็เยอะสอบก็เยอะ ขอบ่นหน่อย555 แต่ยังไงก็ผ่านมาละเนาะ วันนี้เราก็มาดูเรื่องเบาๆกันดีกว่า เป็นเรื่องใกล้ตัว คิดว่าเพื่อนๆน่าจะมีโอกาสคุยโทรศัพท์กับคนญี่ปุ่นกัน ก็เลยอยากจะนำเสนอcollocationเกี่ยวกับโทรศัพท์ซะหน่อย เพื่อนไเคยสงสัยมั้ยว่า電話をする 電話をかける 電話をつなぐ มันต่างกันยังไง คือเฟิร์นเคยสงสัยงั้นวันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันดีกว่า55


1.電話をする
 อันนี้เชื่อว่าทุกคนรู้กันอยู่แล้วเพราะใช้กันอยู่ทุกวันก็คือโทรศัพท์นั่นเอง

2.電話をかける
 จะว่าไปแล้วมันก็คือการโทรศัพท์เหมือนกันน่ะแหละ แต่จะต่างตรงที่ว่า.電話をかけるจะให้ฟีลตอนกำลังกดหมายเลขอ่ะ จิ้มเบอร์อยู่55

3.電話をつなぐ
 อันนี้ต่างจากสองอันบนไม่ใช่ความหมายว่าโทรนะ เวลาเพื่อนๆจะส่งต่อโทรศัพท์ให้อีกคนนี่พูดว่าไงกันเหรอ คือเฟิร์นนี่แบบก็.ちょっと待ってね、...ちゃんに電話をもってあげるから。เป็นการพูดแบบไทยๆมากเลยซึ่งไม่ถูกด้วย อายจัง งั้นเรามาดูที่ถูกกันดีกว่า เวลาเราจะส่งต่อโทรศัพท์ก็ใช้ว่า電話をつなぐนี่แหละเช่น
ちょっと待ってね、...ちゃんに電話をつなぐから
=รอแป๊บนะ เดี๋ยวเอาโทรศัพท์ไปให้...(ก็คือการส่งโทรศัพท์ให้คนที่โทรมาต้องการจะคุยด้วยอ่ะแหละ)

4.電話がつながる
 ก็คือช่วงรอสายโทรศัพท์นั่นเอง ช่วงที่โทรศัพท์กำลังต่อสัญญาณอยู่ ถ้าสัญญาณไม่ติดก็電話がつながらないซึ่งปกติเราจะพูดแค่ว่าできないใช่ม้า55ก็ลองเปลี่ยนมาใช้คำนี้ดูแทนนะ

.電話を受ける
   รับโทรศัพท์ หลายคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

6.電話を切る
 วางหูโทรศัพท์หรือตัดสายโทรศัพท์นั่นเอง
    งั้นถ้าอยากจะบอกว่าถือสายไว้ก่อนนะอย่าเพิ่งวาง ก็อาจพูดได้ว่า電話を切らずに、ちょっと待ってください。

วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนำไปใช้เวลาต้องโทรศัพท์กับคนญี่ปุ่นกันนะ บ๊ายบาย
ป.ล.ลืมไปเราลองเอาคำที่อัปไปใช้ละนะคำว่า目をつけていたอ่ะ คือนัดกับเพื่อนญี่ปุ่นว่าจะไปกินหนมกัน เราก็เลยแนะนำร้านโดยใช้รูปประโยคนี้ไปประมาณว่าเป็นร้านที่แอบเล็งไว้ เค้าก็ไม่เอ๊ะไม่อ๊ะอะไรนะ แสดงว่าคงใช้ได้ งั้นจากนี้แทนที่จะใช้ずっと食べたかったレストランมาใช้เป็น目をつけていたレストランดีกว่า เพื่อนๆก็ลองเอาไปใช้กันดูนะ

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558


Unit5耳
สวัสดีทุกคนโทษทีรู้สึกจะหายไปนานเลยการบ้านเยอะจริง แต่กลับมาละ ครั้งที่แล้วเราทำความรู้จักcollocationที่เกี่ยวกับตากันไปแล้ว ทีนี้เรามาที่หูกันบ้างดีกว่า โอเคมาดูกันเลย


1.耳にする=ได้ยิน
 
ตัวอย่าง彼が会社をやめるらしいことを耳にした。
 
   ได้ยินว่าเขาจะลาออกจากบริษัท
 
คำนี้คิดว่าเพื่อนๆน่าจะเคยเห็นกันบ้างแล้วแต่อาจจะยังไม่ค่อยได้ใช้กันลองเอาไปใช้แทน聞くดูกันนะ
 
2.耳に留める=จำใส่ใจ(留める=とどめる=keep)
 
ตัวอย่าง 先輩のアドバイスを耳に留める。
 
   จำคำแนะนำของรุ่นพี่ใส่ใจไว้
 
ทีนี้เวลาเพื่อนๆอยากจะบอกว่าจะจำใส่ใจไว้ก็ใช้耳に留めるหรืออยากจะเตือนใครให้จำอะไรใส่ใจไว้ก็ลองบอกว่า...注意して耳に留めてくださいดูนะ
 

3.耳を傾ける=เอียงหู (傾ける=かたむける=เอียง)
 
ตัวอย่าง ラジオから流れる音楽に耳を傾ける。
 
              เอียงหูฟังเพลงจากวิทยุ(แบบเอียงหูไปฟังใกล้ๆอ่ะ)
 
4.耳を疑った=ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
 
ครั้งที่แล้วเราเจอกับ目を疑ったที่แปลว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองแล้วไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองก็มีนะอยู่ที่ว่าไปเห็นหรือไปได้ยินอะไรก็เลือกใช้เอากันนะ55
 
5.耳をつんざく=หูจะแตก
 
ตัวอย่าง 耳をつんざくような騒音。
                เสียงที่ดังจนหูแทบแตก
 

แค่นี้ก่อนก็ละกันเนาะหวังว่าเพื่อนๆจะมีโอกาสนำไปใช้กันนะบ๊ายบาย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คอนเสิร์ต

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit4

สวัสดีเพื่อนๆวันนี้เรามาเรียนรู้collocationใกล้ๆตัวกันดีกว่า แค่คำว่าตานี่ถ้าประกอบกับกับVแตกต่างกันไปก็เปลี่ยนความหมายได้หลายอย่างเลยนะ วันนี้ก็อยากจะนำเสนอcollocation เกี่ยวกับตาที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะเริ่มจาก
 
 
目を向ける 
   มีความหมายประมาณว่าหันมาให้ความสนใจ ตัวอย่างเช่น
    彼らの気持ちは分かりますが、明るい面にも目を向けるべきです。
    เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาแต่ก็ควรหันไปมองด้านสว่าง(ดี)บ้าง
目をむく 
  
 มีความหมายประมาณว่าจ้องเขมง ทำตาขวางเป็นต้น เช่น
 目をむいて怒る
 
 
    จ้องเขมงด้วยความโกรธ
   
目を通す
  มีความหมายประมาณว่ามองผ่านๆ
     その論文に目を通す
 ดูวิทยานิพนธ์นั้นแบบผ่านๆ(คร่าวๆ)

 
目を疑う
   
 มีความหมายประมาณว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย เช่น
    私は、自分の目を疑って尚よく見直した。
    ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เลยยังมองให้ดีอีก

 目をつける
 มีความหมายประมาณว่าจับตามอง
    ここは以前から目をつけていたレストランだ。
 ที่นี่เป็นร้านที่ฉันจับตามองไว้ก่อนหน้านี้

วันนี้ก็ขอนำเสนอแค่นี้ก่อนละกันคิดว่าเป็นคำที่น่าจะได้เจอในบทอ่านเอาไปใช้กันได้บ่อยๆนะ

วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit3 求める
สวัสดีทุกคน วันนี้เรามาเรียนรู้collocation ตัวใหม่กันดีกว่า เชื่อว่าเป็นตัวที่หลายๆคนอาจไม่ค่อยคุ้นกับมันหรืออาจจะยังไม่ค่อยได้เอามันมาใช้บ่อยสักเท่าไหร่นั่นก็คือตัว求めるอ่านว่าmotomeru ที่สนใจคำนี้เพราะในวิชาJap Read อาจารย์ให้อ่านบทความอยู่บทความนึง เกี่ยวกับประมาณเรื่องของกฎหมาย สิทธิสัตว์อะไรประมาณนี้ เราก็ไม่ค่อยได้อ่านอะไรเกี่ยวกับกฎหมายกันอ่ะเนาะ ซึ่งก็มักจะใช้ในความหมายของการเรียกร้องหรืร้องขออะไรบางอย่างเช่น 損害賠償を求める =เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหาย แต่求めるไม่ได้ใช้กับแค่ความหมายดังกล่าวเท่านั้นแต่ยังใช้ในความหมายอื่นๆได้อีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในรูปของ...を求める 
ความหมายแรกคือ1.ใช้สำหรับการร้องของ ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือ ขอคำอธิบาย ต้องการ                           คำขอโทษ หรือเรียกร้องค่าเสียหาย เป็นต้น
                       เช่น 彼女は私に助けを求めた。
            =เธอร้องขอให้ฉันช่วย
             大臣に説明を求める。
            =ขอคำอธิบายจากนักบวช
            彼に損害賠償を求める。
            =เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากเขา
                              2.ความปรารถนา
                                   เช่น      幸せを求める。
               =ปรารถนาความสุข
                                                ぬくむりを求める。
               =ปราถนาความอบอุ่น
                               3.ที่อยาก、หา  
           เช่น      職を求める
               =อยากได้งาน
                お求めのお品はこちらでございます。
                 =สินค้าที่คุณต้องการอยู่นี่ครับ
                               4.ซื้อ=買う
                                   เช่น     お求めの品
             =ของที่ซื้อ
               
             皿を求める
             =ซื้อจาน
ตัวอย่างความนิยมการใช้เรียงตามลำดับ
1.ことを求める=เรียกร้องการ...
2.助けを求める=ร้องขอความช่วยเหลือ
3.差を求める=ต้องการหาค่าความต่าง(มักใช้กับด้านคณิตศาสตร์)
4.意見を求める=ขอความคิดเห็น

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit2
印象的な自己紹介
การอัปเดทครั้งที่สองนี้เป็นงานที่ได้รับมอบหมายมาจากอาจารย์ที่แสนน่ารัก คือให้เขียน研究ของตัวเองสั้นๆให้คนอื่นที่ไม่รู้จักเราเข้าใจว่าเรากำลังทำวิจัยเกี่ยวกับอะไร ไม่ยาวมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคืออาจารย์ให้ลองเอาไปโพสในเว็บที่ชื่อว่าLang-8 เพื่อให้คนญี่ปุ่นเจ้าของภาษาได้อ่านและแก้ไวยากรณ์ให้ด้วย ก่อนอื่นมาดูแบบเต็มๆและมีขอผิดเยอะแยะกันก่อน
   私の研究のテーマは日本社会における喫煙者とその意識です。きっかけは自分の経験からです。日本では、エアコンの部屋やレストランなどの公共の場所での喫煙はよく見られます。そのことから、禁煙所、喫煙所にかかわらず、タバコを吸わない人がいる公共の場所は、喫煙者自身にとって自分の行為は迷惑をかけない行為であるかどうか知りたいです。しかも、遠慮のことを大切にしている日本人に対して、公共喫煙は実際に認められているかどうか、迷惑なことかどうかもっとも知りたいです。
และนี้คือผลลัพธ์หลังจากได้รับการแก้ไขจากคนญี่ปุ่นในLang-8 แต่มีมาแก้ให้คนเดียวแองเลยอาจจะเปรียบเทียบการใช้อะไรไม่ได้มาก เอาล่ะเรามาดูที่ละประโยคกันเลย
1.私の研究のテーマは日本社会における喫煙者とその意識です。
ประโยคแรกง่ายๆไม่มีอะไรผิด(แอบดีใจที่เค้าไม่แก้แสดงว่าเค้าเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อใช่มั้ยเพราะแค่หัวข้อยังดูงงๆ555)

2.きっかけは自分の経験からです。
แก้  それを研究テーマとしたきっかけは、自分の経験からです。
นับว่าเป็นการแก้ที่ทำให้ประโยคธรรมดาดูสวยหรูขึ้นมาพอควร เอาตามจริงแล้วถ้าตัวเองจะเขียนว่าจุดประกายการทำวิจัยเรื่องนี้คือ...ก็คงเขียนแค่ว่าこの研究をするきっかけはซึ่งดูธรรมดามากและอาจดูไม่เป็นสำนวนไทยๆด้วย
-สำหรับที่คนญี่ปุ่นแก้ให้ก็มีการเพิ่มそれเข้ามาคิดว่าเพื่อให้ดูมีความต่อเนื่องของเนื้อหา ไม่ใช่ประโยคใครประโยคมันห้วนๆ และใช้รูปとするเข้ามาช่วยคิดว่าเป็นวิธีการที่ทำให้การพูดดูดีขึ้น น่าจดจำเอาไปใช้

3.日本では、エアコンのある部屋やレストランなどの公共の場所での喫煙よく見られます。
หากพูดถึงห้องแอร์เราจะใช้คำว่าอะไร ตอนแรกก็คิดอยู่ว่ามันมีคำเฉพาะหรืไม่แต่ก็หาไม่เจอ เลยใช้คำง่ายๆไปเลยว่าエアコンの部屋ซึ่งตอนที่ใช้ไปยังไม่ได้ตรวจเช็คให้ดี ปรากฏว่าคนญี่ปุ่นมาแก้ให้โดยเติมあるเข้าไปเป็นエアコンのある部屋=ห้องแอร์ จากการเสิร์ชแล้วก็พบว่าหากพูดถึงห้องแอร์แล้วคำนี้เป็นคำที่ใช้อย่างแพร่หลาย
-นอกจากนี้หลายคนคงรู้จักคำว่าエアコンをつけるที่แปลว่าติดแอร์ ก็น่าจะเกิดคำถามว่าแล้วเราจะใช้エアコンをつける部屋ได้หรือไม่ จากการเสิร์ชดูแล้วพบว่าส่วนใหญ่แล้วエアコンをつけるจะไม่ใช้คู่กับ部屋มักไม่ใช้ขยายคำนาม ที่เห็นว่าใช้ขยายคำนามก็จะมีแต่エアコンをつける場所 อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่วลีที่เห็นได้บ่อย
-ส่วน...見られますถูกเปลี่ยคำช่วยเป็น....られますเท่าที่ดูเราจะไม่ใช้กับรูปไวยากรณ์られるแต่จะใช้เสมอ

4.そのことから、禁煙所、喫煙所にかかわらず、タバコを吸わない人がいる公共の場所は、喫煙者自身にとって自分の行為は迷惑をかけない行為であるかどうか知りたいです。
แก้ そのことから、禁煙の場所、喫煙所にかかわらず、タバコを吸わない人がいる公共の場所での喫煙者の行為は迷惑をかけない行為であるかどうか知りたいです。
ตามที่แก้มาคือ禁煙所เป็น禁煙の場所 จากการตรวจสอบดูพบว่ามีการใช้ทั้งสองคำ แต่ถึงแม้จะมีการใช้禁煙所 ในบทความเวลากดเสิร์ชคำจะไม่ขึ้นมาแม้ในดิกชันนารี่ก็ตามแสดงว่าปกติแล้วไม่มีคำศัพท์禁煙所 น่าแปลกที่ว่ามี喫煙所เป็นคำศัพท์เฉพาะแต่กลับไม่มี禁煙所 คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามหากจะพูดถึงพื้นที่ห้ามสูบก็ควรจะใช้禁煙の場所มากกว่า
นอกจากนี้ยังแก้จากเประโยคดิมที่เขียนว่าタバコを吸わない人がいる公共の場所は、喫煙者自身にとって自分の行為は迷惑をかけない行為であるかどうかซึ่งอาจจะดูงงๆเค้าก็ทำให้กลายเป็นกลุ่มคำนามที่ยาวขึ้นแบบนี้ คิดว่าเป็นกลุ่มคำนามที่ยาวมาก(คนญี่ปุ่นชอบคำนามจริงๆด้วย55) タバコを吸わない人がいる公共の場所での喫煙者の行為...โดยใช้でのเข้ามาแต่ก็ทำให้เข้าใจง่ายดีนะ เฟิร์นคงต้องเรียนรู้การใช้คำนามยาวๆแบบนี้มั่งแล้วคือแต่ก่อนไม่กล้าเพราะรู้สึกว่าจะเยอะไปไหน55
สิ่งที่ลืมอีกอย่างคือเวลาอยากรู้ว่า...ใช่หรือไม่...มักจะลืมคำช่วย知りたい นอกจากนี้ยังแก้จาก知りたいですเป็น知りたいです เติมเข้ามาเพื่อเน้นย้ำความรู้สึอยากรู้อีก้วย
5. しかも、遠慮のことを大切にしている日本人に対して、公共喫煙は実際に認められているかどうか、迷惑なことかどうかもっとも知りたいです。
แก้ 人へ気配りを大切にする日本人の公共の場所での喫煙は実際に認められているかどうか、迷惑なことかどうかもっとも知りたいです。
จาก遠慮のことを大切にしているเป็น人へ気配りを大切にするใช้คำว่า気配りที่แปลว่าการใส่ใจเข้ามาแทน
-และใช้ในการทำให้กลายเป็นกลุ่มคำนามที่ยาวขึ้นเหมือนเดิมส่วนที่เหลือก็เหมือนที่แก้จากข้อก่อนหน้า
สิ่งที่ได้เรียนรู้และควรปรับปรุงคือ
1. รู้จัการใช้คำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประโยคให้มากขึ้นเช่นそれ
2. エアコンのある部屋=ห้องแอร์
3. การทำให้ประโยคกระชับขึ้นโดยการทำเป็นกลุ่มคำนามใช้ในการเชื่อม
4. คำกริยา知るต้องอย่าลืมคำช่วย
5. เพื่อเน้นความรู้สึกลงท้ายประโยคด้วยのです.
6. สำนวน人へ気配り
วันนี้พอก่อนไปละบ๊ายบาย