วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

I can change:New me
เอาหละวันนี้กลับมาเจอกันอีกครั้งกับโปรเจคพัฒนาการของฉันในการเล่าเรื่องเป็นภาษาญี่ปุ่น I can change เวอร์ชั่นNew me เวอร์ชั่นสุดท้ายกันนะมาดูซิว่าเรามีพัฒนาการอะไรบ้างมั้ย55
   
今日は面白い話があるんですけど。(うん)えー、ホテルのビルソファーに座ってくつろいでいる男性がいました(うん)その男性は見回しているとある外国人と目が合いました。その外国人は首からカメラをぶらさげ、えー、地図を手に持って、えー、道を探しているようです(うん)はい、えー、その男性はどうやら、その外国人が自分に道を説明してもらうと思っています。(あー、なるほど)うん、やはりその外国人は男性に近づいてきました。えー、男性は外国語が分からないので説明するのを避けるために、えー、ソファーには、隣でおじいさんが新聞を広げていますね。(はい)そのおじいさんに近くに座って、えー、新聞の陰に隠れました。()おじいさんと新聞を読んでいるふりをしました。()はい、その外国人は、え、何でその男性は急にその事をするのか分からなくて、えー、ちょっと怒りました。()はい、これだけです。(


ครั้งนี้สิ่งที่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จคือจากครั้งแรกที่มีあのうถึง17ครั้งแต่ครั้งนี้ไม่มีあのうเลยแม้แต่ตัวเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนจากあのうมาเป็นえーแทนซึ่งในการพูดครั้งนี้มีえーทั้งหมดประมาณ7ครั้ง ไม่แน่ใจว่าเยอะเกินไปหรือไม่

มีการนำสิ่งที่ได้เรียนมาใช้เช่นใช้คำว่าสบสายตา目が合いましたได้ถูกต้องแล้ว อธิบายว่ากล้องคล้องคอได้カメラをぶらさげ  ใช้คำว่า近づいてきましたแทน歩いてきました

ใช้しまいましたน้อยลงเปลี่ยนเป็นรูปอดีตธรรมดาแทน

คิดว่ายังอธิบายตรงหลบหลังหนังสือพิมพ์ได้ไม่ค่อยดีแต่ก็ดีกว่าครั้งแรกเพราะครั้งนั้นถึงขั้นต้องทำท่าประกอบแต่ครั้งนี้คิดว่าสามารถอธิบายด้วยคำพูดให้พอเข้าใจได้

จากครั้งที่แล้วที่อาจารย์แก้避けるกับอย่าลืมหน้า分からないก็สามารถนำมาปรับปรุงในการพูดครั้งนี้ได้ค่ะ

โดยรวมคิดว่าดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีมาก

ในฝั่งของการเป็นあいづちคิดว่าตัวเองทำได้ดีขึ้นค่ะมีการใช้คำที่หลากหลายขึ้นเช่นうん、そうですか、はい、なるほどและหัวเราะเป็นระยะๆ
ขอเสริมนิดนึงนะคือนอกจากนี้สิ่งที่ตัวเองยังผิดพลาดอยู่คือการใช้どうやらเนื่องจากเป็นการคาดคะเนควรใช้ในรูปどうやら....ようです。ก็จะพยายามใช้ให้ถูกต้องในครั้งต่อไป ส่วนตอนจบไม่ใช่これだけですแต่เป็น以上ですจะสวยกว่านะนี่คือสิ่งที่พลาดและอาจารย์เตือนมา ก็จะพยายามแก้ไขในครั้งต่อไปค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit8 時間
หลังจากที่ห่างหายมานานวันนี้กลับมาพบกันอีกครั้งนะทุกคน ครั้งที่แล้วเราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากการเล่าเรื่องนะ ละเฟิร์นก็จบไว้ที่時間をつぶすที่แปลว่าฆ่าเวลายังจำกันได้อยู่รึเปล่าเอ่ย วันนี้ก็เลยคิดว่ามาต่อกันเรื่องเวลาดีกว่า จะมีคำว่าอะไรบ้างมาดูกันเลย


1.時間を割く=แบ่งเวลา,เสียสละเวลา 
             (さく)=แบ่ง     
แบ่งเวลาในที่นี้หมายถึงแบ่งเวลาส่วนหนึ่งมาทำอะไรเช่น
     わたしたちのために時間を割いてもらって、とても感謝しているの。
      ขอบคุณมากๆที่เสียสละ(แบ่ง)เวลามาเพื่อพวกเรา
     五分ほど話す時間を割いてくれないかな。

      กรุณาเสียสละเวลาคุยสักห้านาทีได้มั้ยคะ
คิดว่าน่าจะได้เอาไปลองใช้เวลารบกวนเวลาใครได้นะเช่นตอนขอให้ช่วยทำแบบสอบถามหรือสัมภาษณ์อะไรประมาณนี้
 
2.時間を共有する=ใช้เวลาร่วมกัน   
           (きょうゆうする)=ใช้ร่วมกัน

  เช่นもちろん一緒に食事をしたり、会話を楽しんだり、2人のことは、とても大切です
แน่นอนว่าการที่ได้ใช้เวลาร่วมกันสองคน ทั้งกินข้าวด้วยกัน สนุกกับการพูดคุยกันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
โหซึ้งเลยอ่ะ55ถ้ามีโอกาสลองเอาไปใช้ดูได้นะ55
 
3.時間が近づく=เวลาใกล้เข้ามาแล้ว
       (ちかづく)=ใกล้เข้ามา
   เช่นいよいよ、東京に戻る時間が近づいてきました。
   อีกไม่นานเวลาที่จะต้องกลับโตเกียวใกล้เข้ามาแล้ว
คำนี้คุ้นๆกันรึเปล่าทุกคนต้องคุ้นกันแน่นอนเนาะกับคำว่า近づくแต่เราสามารถนำมันมาใช้กับเวลาได้ด้วย
 
4.時間が解決する=เวลาจะรักษาเอง
    เหมือนภาษาไทยเวลาเราจะบอกว่าแล้วเวลาจะรักษาทุกอย่างเองหมายความว่าเดี๋ยวพอเวลาผ่านไปทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เอาไว้เวลาปลอบใจเพื่อนได้เนาะ
   เช่น きっと、時間が解決してくれます
 
5.時間に合わせる=เวลาที่ตรงกัน
   チェックインの時間に合わせ乗り物の時間を選べばよいですよ。

   เลือกเวลายานพาหนะให้พอดีกับเวลาเช็คอินก็ดีนะ
 หรือเวลาจะนัดกันก็เลือกเอา時間に合わせる時ใช้แบบนี้ก็ได้
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะอาจจะดูง่ายๆแต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะ บ๊ายบายแล้วเจอกันใหม่
 
 

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

I can change...I see
มาต่อกับI can changeภาค2 คราวนี้เราได้ดูตัวอย่างการเล่าเรื่องจากคนญี่ปุ่นด้วย ก็ลองเอาของเค้ามาใช้บ้างเผื่อจะดีขึ้น(รึเปล่านะ) แต่คราวนี้เป็นการเขียนแก้เฉยๆนะ เปลี่ยนยังไงบ้างมาดูกัน

ホテルのロビーのソファーに座り、くつろいでいた男性が、見回しているとたまたま外国人と目が合ってしまいました。その外国人は、カメラを首からぶらさげ、地図を手に持って、どうやら道を探していたようです。やはりそうです、その外国人は道を説明してもらうために座っている男性に近づいてきました。しかし、男性は外国語がさっぱり分からないので、説明するのを逃げるために、隣のおじさんが広げている新聞のかげに隠れてしまいました。外国人はなんでこの男性がそのようなことをするのが分からなくて、言葉を失っていました。

内省

1.
1.          ต่อไปนี้จะไม่ใช้คำว่าある部屋ขึ้นต้นเวลาเล่าเรื่องเนื่องจากคนญี่ปุ่นไม่ใช้รูปประโยคแบบนี้กันและเราก็ไม่ได้ต้องการอธิบายอะไรเกี่ยวกับ部屋ต่อจากนี้ดวย อันใหม่นี้เลยเปลี่ยนเป็นホテルのロビー
2.        อันก่อนอธิบายว่ามีผู้ชายสองคนนั่งอยู่คนที่อ่านหนังสือพิมพ์นั่งอยู่ฝั่งนี้ อีกคนนั่งเฉยๆไม่ทำอะไรนั่งอยู่อีกฝั่ง ตอนแรกคิดว่าควรอธิบายเพราะจะได้เห็นภาพแต่พอดูการเล่าของคนญี่ปุ่นแล้วน้อยคนมากที่อธิบายเลยคิดว่าตัดส่วนนี้ออกไปดีกว่าใส่ไปเยอะยิ่นเย้อ เพราะถึงแม้มากล่าวตอนท้ายว่าหลบหลังหนังสือพิมพ์ของคนที่นั่งข้างๆก็เข้าใจได้แล้ว
3.        อันแรกจริงๆอยากอธิบายวผู้ชายว่านั่งพักอยู่ที่โซฟาเฉยๆแต่ไม่รู้จะใช้คำว่านั่งพักผ่อนอยู่ยังไงดีเลยใช้ไปว่า他の人は何もしないでこのまま座っていますซึ่งยาวมากแถมแปลกๆด้วย อันใหม่เลยเปลี่ยนมาใช้ソファーに座り、くつろいでいた男性。คำที่ได้เรียนรู้ใหม่นี่ก็คือคำว่าくつろいซึ่งแปลว่าพักผ่อนนั่นเองทำให้สื่อความหมายได้ตรงกระชับมากขึ้น
4.        ตอนแรกใช้คำว่า前に見てก็เปลี่ยนมาเป็น見回すที่แปลว่ามองไปรอบๆนอกจากนี้ยังเพิ่มคำว่าたまたまที่แสดงถึงความบังเอิญอีกด้วยต่อจากนี้ก็จะลองใช้たまたまใส่เข้าไปด้วยเวลาต้องการจะบอกว่ากริยานั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ
5.        อันก่อนเวลาไม่แน่ใจอะไรก็จะจบด้วยรูปかもしれませんตลอดครั้งนี้เลยเปลี่ยนมาใช้どうやらที่แปลว่าดูเหมือนว่าดู ต่อจากนี้ก็จะพยายามลดการจบประโยคด้วยรูปかもしれませんและหันมาใช้รูปแบบการพูดที่แสดงถึงการคาดเดาไม่แน่ใจอย่างどうやらให้มากขึ้น
6.        นอกจากนี้ที่เพิ่มมาคืออธิบายด้วยว่าคนต่างชาติแขวนกล้องไว้ที่คอ ตอนแรกไม่รู้จะพูดยังไงเลยไม่ได้อธิบายแต่ถ้าจะให้อธิบายเองคงใช้กริยาかける พอมาดูการใช้ของคนญี่ปุ่นเค้าใช้ว่าカメラを首からぶらさげるก็เลยลองใช้ตามมั่ง ต่อจากนี้ถ้าจะพูดว่าคล้อง ห้อย หรือแขวนก็จะลองใช้คำว่าぶらさげるดูมั่ง
7.        อันแรกที่จะบอกว่าแล้วก็จริงๆด้วยอย่างที่คิดคนต่างชาติเดินเข้ามา ใช้คำว่า本当にซึ่งอาจจะผิดเซนซ์ พอมาดูตัวอย่างก็นึกขึ้นได้ว่าใช้やはりน่าจะเหมาะสมกว่า  ต่อจากนี้ถ้าอยากจะบอกว่าจริงๆด้วยเป็นอย่างที่คิดเลยก็จะใช้やはり
8.        เปลี่ยนจากที่ใช้ว่า男の人に歩いてきましたซึ่งเป็นการพูดจากภาษาไทยประมาณว่าเดินเข้ามามาเป็น男性に近づいてきましたที่จริงเคยเห็นการใช้คำ近づくมาหลายรอบแล้วแต่ไม่เคยเอามาลองใช้เองเลย คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ใช้คำนี้กัน ต่อจากนี้ก็จะพยายามใช้คำนี้ให้บ่อยขึ้น
9.        แต่ก่อนถ้าจะบอกไม่เข้าใจอะไรเลยก็จะพูดแต่全然分からないเพิ่งรู้ว่ามีวิธีพูดวิธีอื่นด้วยคือさっぱり分からない คิดว่าจะลองเอาไปใช้ดูค่ะ
10.ตอนจะอธิบายว่ากางหนังสือพิมพ์อยู่นี่ยากมากถึงขั้นอธิบายไม่ได้ต้องทำท่าประกอบแต่ตอนนี้รู้แล้วว่าใช้คำว่า広げる นอกจากนี้ตอนแรกจะอธิบายว่าเด็กผู้ชายก็เลยไปหลบอยู่หลังหนังสือพิมพ์ก็ใช้คำว่า新聞の中にไปแต่ยังพูดไม่ทันจบเพื่อนเกิดงงว่าในหนังสือพิมพ์เนี่ยนะตอนอธิบายก็เลยเปลี่ยนเป็นไปก็คิดว่าคงใช้ไม่ได้แต่พอมาดูตัวอย่างของคนญี่ปุ่นก็มีอยู่คนนึงใช้เหมือนกันแต่ต่างกันหน่อยตรงที่เค้าใช้ว่า 新聞紙の中แต่ในอันนี้ลองใช้เป็น新聞のかげに隠れてしまいましたตามคนญี่ปุ่นดู
 
I can change...By myself
หลังจากที่ห่างหายจากการอัปมาเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงสอบคือไม่รู้ว่างานเยอะหรือเหนื่อยอะไร แต่หมดแรง ช่วงนี้งานก็ถาโถมเข้ามาอีกไม่รู้จะทำอันไหนก่อนเลยทีเดียว ยังไงก็แล้วแต่เนื่องจากอาจารย์มอบหมายงานให้อัปลงบล็อกที่มีชื่อน่ารักๆว่าI can change.(ไมรู้ว่าเปลี่ยนได้จริงรึเปล่า55)ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยกระตุ้นให้กลับเข้ามาที่แห่งนี้อีกครั้ง55 งานนี้ก็คือว่าให้ภาพมาแล้วให้เล่าเรื่องจากภาพให้เพื่อนฟังเป็นภาษาญี่ปุ่น และภาพนั้นก็คือ...ใส่ภาพไม่ได้อ่ะ55ก็คือเป็นภาพเด็กนั่งโซฟาในโรงแรม อยู่ๆสบตากับชาวต่างชาติ แต่ตัวเองพูดภาษาต่างชาติไม่เป็นกลัวเค้าเข้ามาถามทาง
เลยไปหลบอยู่หลังหนังสือพิมพ์ที่คุณลุงข้างๆกางอ่านอยู่ประมาณนี้ คือที่จริงอายมากนะแต่ก็จะลง โอเคมาดูกันเลยดีกว่า ป.ล.สีแดงๆในวงเล็บคือあいづちของเพื่อน
พัฒนาการของฉันในการเล่าเรื่องเป็นภาษาญี่ปุ่น(I can change!)ตอนBy myself

 え、あのう、ある部屋にあるソファーに あのう、二人の人が座っています。ある人は右に座っています。向こう あのう、左にも一人の人が座っています。でも、あのう、右に座ってめがねをかけている人はあのう、新聞を読んでいます。(はい)他の人は何もしないでこのまま座っています。(はい)何をしないでいる人はあのう、前に見てある外国人の目に合わせてお互いに見ました。(はい)はい でも、あのう、その外国人は、あのう、手の中に、あのう、地図を持っています。道に迷っているかもしれません。ソファーに座っている人は、その外国人は自分の方に歩いて来る気がしました。(え、そのソファー座っている人はどの人ですか)あのう、何をしないでいる人ですね。(おお)はい、そして、本当に、あのう、その外国人は何をしないで男の人に歩いてきました。(はい)でも、あのう、ソファーに座っている何をしないで男は怖いかもしれません。あのう、笑 英語が上手じゃないかもしれません。あのう、外国人と話すことが怖がりました。そこで、あのう、ソファーに座っている新聞を読んでいる男の新聞の中に(新聞の中ですか)新聞の中じゃない、後 後(後)え、分かったかな?あのう、新聞を読んでいる人はこうやって、男の子は新聞を読んでいる人のそばに座って一緒に新聞を読んでいるみたいにふりをしました。(おお,そっか、分かりました)外国人は近くに歩いて来て,あのう、(え!)なんで急に他の人と新聞を読んでいるか分かりません。じゃ、これで終わります。

จบแล้วก็อย่างที่เห็นนะเล่าไม่ได้เรื่องเลยถามว่าเจ็บใจตรงไหนหลายที่เลย555
อย่างแรกเลยคือจะเห็นว่าあのうเยอะมากมีประมาณ17ครั้งได่้ และสิ่งที่ทำไม่ค่อยได้คือการอธิบายช่วงแรกที่ว่านั่งอยู่สองคนนะอีกคนอยู่ฝั่งนี้รู้สึกยุ่งยากมาก แค่จะอธิบายว่าอีกคนนั่งเฉยๆยังพูดซะยาวเลย จะบอกว่าสบตาก็พูดไม่ถูก ยิ่งตอนหลบหลังหนังสือพิมพ์นี่แล้วใหญ่เลย อาจจะเป็นเพราะศัพท์และสำนวนในหัวน้อยด้วย55

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit7 勉強になったこと
 สวัสดีทุกคนกลับมาเจอกันอีกแล้ว ช่วงนี้ปั่นงะ55โอเคครั้งที่แล้วเฟิร์นได้ลองเอา目をつけていたไปใช้เนาะ ใช้ว่า目をつけていたレストランซึ่งก็แปลประมาณว่าเป็นร้านที่จับตามองไว้ว่าอยากจะไปกินไรงี้ มาขยายความกันหน่อย อาจเอาไปใช้กับอย่างอื่นก็ได้นะเช่น
                       目をつけていたバッグ、目をつけていた靴งี้
หรือถ้าจะใช้เป็นคำกริยาก็เช่น
                       彼は数か月前からテロリストとして目をつけられていた。
      เขาถูกจับตามองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายตั้งแต่สองสามเดือนก่อน
เอาล่ะมาต่อกันเรื่องเมะเมะหน่อย คือเมื่อสัปดาห์ก่อนๆอาจารย์ให้ทำtaskก็ของวิชานี้แหละนะให้ภาพมาเล่าให้อีกคนฟังเป็นภาษาญี่ปุ่น เฟินก็ได้เรื่อง外国人คือก็มีอยู่ช่วงจะเล่าว่าคนที่นั่งเฉยๆน่ะก็ดันไปสบสายตากับคนต่างชาติ ไอคำว่าสบสายตานี่สิก็ไม่มั่นใจว่าต้องพูดไง แต่ก็ซุยไปว่า目に合わせるซึ่งก็นะผิดอยู่ละล่ะเพื่อนฟังรู้เรื่องป่าวก็ไม่รู้ ทีนี้ก็เลยมาดูเฉลยในใบที่อาจารย์แจกให้ก็พบว่าส่วนใหญ่เค้าใช้คำว่า目が合うกัน

1.目が合う=สบตา
    เช่น ちょうどめがあった。=สบตาพอดี
   สบสายตากับใครก็...と目があった

นอกจากนี้ก็ยังมีใช้แบบ目線が合うด้วยแปลว่าสบสายตา ปกติไม่เคยใช้คำว่า目線เลย

                                                              目線(めせん)=สายตา

2.目線が会う=สบสายตา
   ความหมายก็เหมือนกับ目が合うน่ะแหละ สบในที่นี้จะแบบสบตาพอดีไม่ได้ตั้งใจจะสบตาถ้าแบบสบตาแบบบังคับลูกตาเองแบบ他動詞อ่ะ55เอิ่มการอธิบายสุดมากจะเป็น目線を合わせる
   ว่าแต่เราไม่ค่อยได้ใช้目線กันเลยเนาะงั้นมาสนใจเค้าหน่อยดีกว่า





3.目線で考える=คิดจากทัศนคติของ(สถานะบุคคล),คิดจากทัศนคติหรือมุมมองจากสายตาของ...
   เช่น 生徒の目線で物事を考えてみる。
  ลองคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆจากมุมมองของนักเรียนดู
ตอนนี้หลายคนคงสงสัยว่าอ่าวแล้ว目にあわせるใช้ยังไง คือเฟิร์นลองค้นมาปกติเค้าจะไม่ใช้แค่目にあわせるหรือ目にあうกัน งั้นจะขอยกตัวอย่างแบบที่เค้าใช้กันนะเช่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ลงโทษ

4。(相手に)痛い目にあわせる=สั่งสอนให้รู้สำนึกหรือให้เจ็บปวด(กับสิ่งที่ทำ) ประมาณว่าคนๆนั้นทำ    ผิดแล้วลงโทษ
             เช่น 私の話を聞け、さもないと、痛い目にあわせるぞ。
               =ฟังฉันนะไม่งั้นฉันจะลงโทษ
        痛い目にあう=ได้รับความเจ็บปวดความทุกข์ทรมาน
              เช่น(いつかきっと)痛い目にあうぞ。
     =สักวันผลกรรมต้องตามสนองแน่ (ประมาณว่าต้องได้รับความเจ็บปวดหรือ                                                                                 ปัญหาจากการกระทำของตนตามมา)
 มีความหมายเหมือนกับひどい目にあわせる/あう

และอยากจะเสนออีกคำแต่อันนี้เป็นเรื่องของเวลาคือตอนอธิบายภาพจะมีอยู่ช่วงอธิบายว่ามีเด็กคนนึงนั่งเฉยๆไม่ทำไรตอนนั้นเฟิร์นก็พูดไปว่า何をしないでいる男の子แปลแบบไทยๆเลยยาวด้วยแต่พอมาดูเฉลยมีคนใช้คำว่า時間をつぶしていた男性

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ดื่มกาแฟ

5.時間をつぶす=ฆ่าเวลา
   เช่นコーヒーでも飲んで時間をつぶそう。
   =มาดื่มกาแฟฆ่าเวลากันเถอะ

วันนี้ก็ขอนำเสนอแค่นี้ก่อนละกันดูจะยาวไปละ55
เออนี่เฟินได้มีโอกาสลองใช้ศัพท์เกี่ยวกับโทรศัพท์พอดีเลยแหละ แบบจะให้อีกคนคุยต่อก็ลองใช้...ちゃんにつなぐไปเค้าก็เข้าใจนะแต่เค้าบอกว่าใช้เป็น...誰に取りつなぐจะดูเป็นธรรมชาติกว่า งั้นเราก็ลองใช้取りつなぐกันดูเนาะจะได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
      

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit6 電話
  สวัสดีทุกคนหลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานวันนี้กลับมาแล้ว คือเพิ่งจะผ่านช่วงสอบนรกมาบางคืนนี่ไม่ได้นอนกันเลยทีเดียวงานก็เยอะสอบก็เยอะ ขอบ่นหน่อย555 แต่ยังไงก็ผ่านมาละเนาะ วันนี้เราก็มาดูเรื่องเบาๆกันดีกว่า เป็นเรื่องใกล้ตัว คิดว่าเพื่อนๆน่าจะมีโอกาสคุยโทรศัพท์กับคนญี่ปุ่นกัน ก็เลยอยากจะนำเสนอcollocationเกี่ยวกับโทรศัพท์ซะหน่อย เพื่อนไเคยสงสัยมั้ยว่า電話をする 電話をかける 電話をつなぐ มันต่างกันยังไง คือเฟิร์นเคยสงสัยงั้นวันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันดีกว่า55


1.電話をする
 อันนี้เชื่อว่าทุกคนรู้กันอยู่แล้วเพราะใช้กันอยู่ทุกวันก็คือโทรศัพท์นั่นเอง

2.電話をかける
 จะว่าไปแล้วมันก็คือการโทรศัพท์เหมือนกันน่ะแหละ แต่จะต่างตรงที่ว่า.電話をかけるจะให้ฟีลตอนกำลังกดหมายเลขอ่ะ จิ้มเบอร์อยู่55

3.電話をつなぐ
 อันนี้ต่างจากสองอันบนไม่ใช่ความหมายว่าโทรนะ เวลาเพื่อนๆจะส่งต่อโทรศัพท์ให้อีกคนนี่พูดว่าไงกันเหรอ คือเฟิร์นนี่แบบก็.ちょっと待ってね、...ちゃんに電話をもってあげるから。เป็นการพูดแบบไทยๆมากเลยซึ่งไม่ถูกด้วย อายจัง งั้นเรามาดูที่ถูกกันดีกว่า เวลาเราจะส่งต่อโทรศัพท์ก็ใช้ว่า電話をつなぐนี่แหละเช่น
ちょっと待ってね、...ちゃんに電話をつなぐから
=รอแป๊บนะ เดี๋ยวเอาโทรศัพท์ไปให้...(ก็คือการส่งโทรศัพท์ให้คนที่โทรมาต้องการจะคุยด้วยอ่ะแหละ)

4.電話がつながる
 ก็คือช่วงรอสายโทรศัพท์นั่นเอง ช่วงที่โทรศัพท์กำลังต่อสัญญาณอยู่ ถ้าสัญญาณไม่ติดก็電話がつながらないซึ่งปกติเราจะพูดแค่ว่าできないใช่ม้า55ก็ลองเปลี่ยนมาใช้คำนี้ดูแทนนะ

.電話を受ける
   รับโทรศัพท์ หลายคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

6.電話を切る
 วางหูโทรศัพท์หรือตัดสายโทรศัพท์นั่นเอง
    งั้นถ้าอยากจะบอกว่าถือสายไว้ก่อนนะอย่าเพิ่งวาง ก็อาจพูดได้ว่า電話を切らずに、ちょっと待ってください。

วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนำไปใช้เวลาต้องโทรศัพท์กับคนญี่ปุ่นกันนะ บ๊ายบาย
ป.ล.ลืมไปเราลองเอาคำที่อัปไปใช้ละนะคำว่า目をつけていたอ่ะ คือนัดกับเพื่อนญี่ปุ่นว่าจะไปกินหนมกัน เราก็เลยแนะนำร้านโดยใช้รูปประโยคนี้ไปประมาณว่าเป็นร้านที่แอบเล็งไว้ เค้าก็ไม่เอ๊ะไม่อ๊ะอะไรนะ แสดงว่าคงใช้ได้ งั้นจากนี้แทนที่จะใช้ずっと食べたかったレストランมาใช้เป็น目をつけていたレストランดีกว่า เพื่อนๆก็ลองเอาไปใช้กันดูนะ